Author: admin
วิธีการใช้ถังดับเพลิง
การเกิดไฟ องค์ประกอบของไฟ
Installation Sprinkler: Open-Grid Ceiling
มีเพื่อน ๆ สมาชิกได้ถามมาประเด็นการติดตั้งSprinkler: Open-Grid Ceiling ก็ตามนี้เลยครับ ของเก่าเอามาเล่าใหม่กันอีกรอบครับ
- ฝ้าตะแกรงที่สามารถติดตั้ง ด้านล่างของหัว Sprinkler ได้ จะต้องมีระยะช่องเปิดแต่ละด้าน ไม่น้อยกว่า ¼ นิ้ว (6.4 mm.) โดยที่วัสดุฝ้าตะแกรงจะต้องมีความหนาหรือความลึกไม่เกิน ขนาดที่เล็กที่สุดชองช่องเปิดและพื้นที่ช่องเปิดจะต้องไม่น้อยกว่า 70 % ระยะติดตั้ง Sprinkler เหนือฝ้าตะแกรงสำหรับพื้นที่ LH
- ติดตั้ง ระยะไม่เกิน 3m x 3m กรณีที่ระยะระหว่าง Deflector ถึง ขอบบนของฝ้าตะแกรงอย่างน้อย 18 นิ้ว(457 mm)
- ติดตั้งระยะ 3m x 3m แต่ไม่เกิน 3m x 3.7m กรณีที่ระยะระหว่าง Deflector ถึง ขอบบนของฝ้าตะแกรงอย่างน้อย 24 นิ้ว(610 mm)
- ติดตั้ง ระยะเกินกว่า 3m x 3.7m กรณีที่ระยะระหว่าง Deflector ถึงขอบบนของฝ้าตะแกรงอย่างน้อย 48 นิ้ว(1219 mm) ระยะติดตั้ง Sprinkler เหนือฝ้าตะแกรงสำหรับพื้นที่ OH
- ติดตั้ง ระยะไม่เกิน 3m x 3m กรณีที่ระยะระหว่าง Deflector ถึง ขอบบนของฝ้าตะแกรงอย่างน้อย 24 นิ้ว(610 mm)
- ติดตั้งระยะเกินกว่า 3m x 3m กรณีที่ระยะระหว่าง Deflector ถึงขอบบนของฝ้าตะแกรงอย่างน้อย 36 นิ้ว(914 mm)
การคำนวณปริมาณน้ำสำรองดับเพลิง
ตึกเราควรสำรองน้ำสำหรับระบบดับเพลิงเท่าไหรดี ?
ปริมาณน้ำสำรองน้ำดับเพลิงส่วนใหญ่ ก็อ้างอิงจากกฏหมายครับเพราะบังคับ การออกแบบปริมาณสำรองน้ำดับเพลิงถ้าน้อยเกินไปก็จะไม่เพียงพอสำหรับการระงับเหตุเพลิงไหม้ได้ ถ้าออกแบบปริมาณมากเกินไปก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิม และต้องใช้พื้นที่ค่อนข้างมาก( เจ้าของโครงการไม่ชอบ 555 )
ในการออกแบบอาจต้องนึกถึงเวลาที่รถดับเพลิงจะมาถึง ทางเข้าออกสะดวกให้รถดับเพลิงเข้ามาโครงการหรือไม่ ?? อาจต้องพิจารณาให้รอบด้านถึงความจำเป็น
ในกฏหมายไทยส่วนใหญ่จะระบุที่ 30 นาที สำหรับท่อยืน ( สังเกตใช้คำว่า ” ท่อยืน ” ) ตัวเลข 30 นาที กฏหมายน่าจะ Refer. มาจาก NFPA14 เรื่อง Stand pipe ซึ่งใน NFPA14 ก็ระบุ 30 นาที่เช่นกัน
แต่ทั้งนี้ในมาตรฐาน วสท. และ NFPA13 ในการออกแบบระบบ Sprinkler จะระบุปริมาณน้ำสำรองโดยแยกเป็นพื้นที่ความอันตราย เช่น
- พื้นที่อันตรายน้อย สำรองน้ำ 30-60 นาที
- พื้นที่อันตรายปานกลาง สำรองน้ำ 60-90 นาที
- พื้นที่อันตรายมาก สำรองน้ำ 90-120 นาที
ในประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม พ.ศ.2555 มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมข้อกําหนดในการป้องกันอัคคีภัยเล่ม 4 ระบบหัวกระจายน้ําดับเพลิงอัตโนมัติ ก็ระบุแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นในการเลือกปริมาณน้ำสำรองว่าจะเท่าไหร่ดีอาจต้องพูดคุยถึงความจำเป็นและอธิบายให้ทางเจ้าของโครงการเข้าใจ โดยส่วนตัว อาคารที่ติดตั้ง ระบบ SPK ก็จะอ้างอิงมาตรฐาน วสท.กับ NFPA13 คือดูตามพื้นที่ครอบครอง สำหรับอาคารโรงงาน และมี Warehouse ติดตั้ง SPK จำพวก ESFR อันนี้ ต้องไปดูเพิ่มเติมนะครับ จะมาติด 30 นาที ตามกฏหมายก็ไม่เหมาะสม ใน NFPA13 ก็จะมีแนะนำอยู่ ตัวอย่างการคำนวณ เช่น อาคารสูง มีจำนวนท่อยืนทั้งหมด 3 ท่อยืน อัตราการไหล ของ Fire pump คือ 1,000 gpm เป็นอาคารอันตรายน้อย ปริมาณน้ำสำรองจะได้ว่า ปริมาณน้ำสำรอง คิด 30-60 นาที / Fire pump = 1,000 gpm ( คำนวณเลือก 30 นาที) ปริมาณน้ำสำรอง = (1,000 x 3.78) x 30/1,000 = 113.4 Cu.m. Cr.ชมรมวิศวกรออกแบบระบบป้องกันอัคคีภัย
ฝาประกับฉุกเฉิน
ฝาประกับฉุกเฉินป้องกันสายส่งน้ำ แตกหรือรั่วทำด้วยทองเหลืองติดบานพับเหล็กล็อตใช้กับประกับสายส่งนํ้าดับเพลิงที่ชํารุดรั่วไหล ขณะทําการฉีดนํ้าดับเพลิง
ตะกร้าหวายกรองผง
สำหรับใช้สวมครอบหัวกระโหลกกรองน้ำใช้กับท่อสูบน้ำของรถดับเพลิงและเครื่องสูบน้ำดับเพลิงชนิดหาบหามทั่วๆไป
– ขนาด 3 – 4 นิ้ว
หัวสปริงเกอร์ (FIRE SPRINKLER)
แบบหัวกระจายน้ำดับเพลิงอัตโนมัติได้รับมาตรฐาน UL ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางของปรอท 5 มม. มี 2 แบบคือ อุณหภูมิ 68°C (155°F) และ 68°C (155°F) แบบ UPRIGHTเหมาะกับการติดตั้งในโรงจอดรถโกดังเก็บของ แบบ Pendentเหมาะสำหรับการติดตั้งในอาคารทั่วไป แบบ Sidewallเหมาะสําหรับการติดตั้งในห้องพักโรงแรมหรือทางขึ้นลงอาคาร
ผ้าห่มกันไฟ FIRE BLANKET
มาตรฐาน AS/NZS ขนาด 4 x 6 นิ้ว ขนาดกะทัดรัด เหมาะสําหรับดับไฟในครัว หรือ ดับไฟที่ติดตามร่างกาย
กล่องแล็ค
คล้องสายส่งนํ้าดับเพลิง ทําด้วยเหล็กพ่นสีแดง
– ขนาด 1.5 นิ้ว
– ขนาด 2.5 นิ้ว